จบลงไปแล้วกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2565 – 2566
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2565 – 2566 ระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โอกาสนี้ได้พระราชทานพระโอวาท วันที่หนึ่ง (18 กันยายน 2567) ความว่า “บัณฑิตทั้งหลายถือได้ว่าเป็นผู้มีความรู้สูง ย่อมมุ่งหวังที่จะออกไปประกอบอาชีพการงานให้ประสบความสำเร็จ สร้างตัวสร้างฐานะเพื่อความยั่งยืนของชีวิต ตลอดจนสร้างประโยชน์และความเจริญมั่นคงให้แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ ในการทำงานสร้างสรรค์ประโยชน์นั้น แต่ละคนควรจะได้ยึดมั่นในพระราชปณิธาน ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกที่ว่า “ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” ทั้งนี้ เพราะประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์คือประโยชน์ส่วนรวม อันเป็นประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับร่วมกัน และเมื่อส่วนรวมได้รับประโยชน์ คือความเจริญมั่นคงแล้ว แต่ละคนผู้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนรวมก็ย่อมมีความเจริญมั่นคงในชีวิตและกิจการงานด้วย บัณฑิตทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพการงานใดก็ตาม จึงต้องมุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตน และนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย ประกอบกับความรู้ที่ได้ขวนขวายศึกษาเพิ่มเติม ไปใช้ในการทำงานให้สำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความขยันหมั่นเพียร และความซื่อสัตย์สุจริต ถ้าทำได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ ทั้งประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ อันเป็นความสำเร็จแท้จริงที่ทุกคนพึงปรารถนา”
พระราชทานพระโอวาท วันที่สอง (19 กันยายน 2567) ความว่า “ประเทศชาติจะมีความเจริญรุ่งเรืองได้ก็ด้วยมีความพร้อมของทรัพยากรในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นที่ต้องการของสังคมทั้งในระดับชาติและระดับโลก เพราะบุคคลที่มีคุณภาพ ย่อมสามารถเป็นทั้งกำลัง ทั้งผู้นำ ในการบริการจัดการ และปรับปรุงพัฒนาทรัพยากรอื่น ๆ ที่มีอยู่ ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยใช้ความรู้ทางวิชาการ วิจารณญาณอันเที่ยงตรง และคุณธรรมความถูกต้อง เป็นพื้นฐานในการปฎิบัติ บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ นับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ก็ได้เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการปฎิบัติภาระหน้าที่ดังกล่าวมาแล้วด้วยดี เป็นที่น่าภูมิใจ จึงขอให้บัณฑิตทุกคนตั้งใจพยายามพัฒนาตนเอง ให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ จะได้สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองและแก่โลก อันเป็นกิจที่หนึ่งที่คนเราพึงปฏิบัติ ดังพระราชปณิธานที่ทุกคนได้น้อมนำยืดถือ”
พระราชทานพระโอวาท วันที่สาม (20 กันยายน 2567) ความว่า “ประเทศของเรายังต้องการบุคลากรจำนวนมาก ที่ถึงพร้อมด้วยความรู้ความสามารถ ความคิดวิจารณญาณ และคุณธรรมความสุจริต เพราะผู้มีคุณสมบัติอันพึงประสงค์ดังกล่าวนี้เท่านั้น จึงจะสามารถสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกมั่นคง ให้แก่บ้านเมืองของตนและแก่โลกได้อย่างแท้จริง บัณฑิตไม่ว่าจะสำเร็จการศึกษาสาขาวิชาใดก็ตาม นับว่าเป็นผู้มีพื้นฐานที่ดีอยู่ เพราะได้รับการฝึกฝนอบรมทั้งในด้านความรู้ สติปัญญา และคุณธรรมความประพฤติมาพอสมควรแล้ว จึงเป็นที่คาดหวังของสังคม ว่าจะสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีคุณสมบัติพร้อม ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไปได้ หากทุกคนนำความคาดหวังนี้มาเป็นกำลังแรงใจ และถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างสำคัญ ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์จรรโลงสังคม และทำประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์ สมดังประราชปณิธานที่แต่ละคนยึดมั่นประจำใจแล้ว ความสุขความเจริญที่แม้จริงและยั่งยืน ก็จะบังเกิดขึ้นทั้งแก่ตนเอง แก่ประเทศชาติ ตลอดถึงโลกของเรา”
พระราชทานพระโอวาท วันที่สาม (21 กันยายน 2567) ความว่า “การพัฒนาสังคม และสร้างสรรค์ความสุขความเจริญให้แก่ส่วนรวมนั้น เป็นสิ่งที่แต่ละคนสามารถกระทำได้ตามกำลังของตนเอง และหากทุกคนทุกฝ่ายพร้อมใจปฏิบัติให้สอดคล้องกันอย่างเหมาะสมถูกต้องแล้ว ก็จะบังเกิดผลอันยิ่งใหญ่ เป็นประโยชน์ที่ยิ่งกว้างขวางทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม จึงขอให้บัณฑิตทุกคนตั้งใจประกอบอาชีพการงาน และปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบของตน ให้สำเร็จอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งร่วมมือร่วมใจกันให้เข้มแข็งเหนียวแน่น ในอันที่จะนำความรู้ที่แต่ละคนมีอยู่ มาปรับใช้ให้ประกอบส่งเสริมกัน เพื่อปฏิบัติงานของส่วนรวมและของชาติให้ดำเนินก้าวหน้า ด้วยความเสียสละ อุทิศตน สมดังพระราชปณิธานที่ยึดถือเป็นหลักชัย ถ้าทำได้เช่นนี้ แต่ละคนก็จะสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์และความเจริญมั่นคง ให้แก่ตนเอง แก่ครอบครัว แก่สังคมที่ตนร่วมอยู่ และแผ่ขยายต่อยอดไปถึงชาติบ้านเมืองและโลก อันจะทำให้ทุกคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม และในโลกของเราดำเนินชีวิตได้ด้วยความวัฒนาผาสุกสืบไป”
ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี (ICC Hat Yai)
ขอร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกท่าน
จัดโดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ
สนใจให้เราดูแลงานของคุณ บริการเช่าพื้นที่จัดงานหรือให้เราบริการจัดงานครบวงจร
สอบถามได้ที่ แผนกขาย ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี (ICC Hat Yai) โทร. 074 – 289900 – 1
ติดตามงาน Event กิจกรรมอื่นๆ ได้ที่
Website : https://icchatyai.com/
Facebook : ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี