


โอกาสนี้ได้พระราชทานพระโอวาท วันที่หนึ่ง (21 กันยายน 2568) ความว่า “บัณฑิตทุกท่านล้วนมีภารกิจสำคัญ หลังจากที่ได้สำเร็จการศึกษา คือ การนำความรู้ทางวิชาการที่เล่าเรียนมา ไปใช้ปฏิบัติพัฒนาบ้านเมืองในด้านต่างๆ หลายปีที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน รวมทั้งเกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทั้งในระดับชาติและระดับสากล จำเป็นที่ประเทศชาติจะต้องมีบุคลากร ที่มีความรู้ความสามารถเท่าทันยุคสมัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง บัณฑิตแม้จะมีความรู้ในวิทยาการ ตามที่ได้ศึกษามาอยู่แล้ว จึงไม่ควรหยุดนิ่งอยู่เพียงเท่านั้น แต่จะต้องขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งในสาขาวิชาของตนและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าของวิชาการและเทคโนโลยี ตลอดจนข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อให้ก้าวทันโลกทันเหตุการณ์อยู่เสมอ ข้อสำคัญต้องพยายามฝึกฝนความคิดวิจารณญาณ ให้เที่ยงตรงเป็นกลาง และสุขุมรอบคอบ ประกอบด้วยเหตุผลตามความเป็นจริง โดยไม่ละทิ้งแนวทางการดำรงตน ที่บัณฑิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทุกรุ่น ยึดถือปฎิบัติตามตลอดมา คือพระราชปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เหนือกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว ถ้าทำได้ดังนี้ บัณฑิตก็จะสามารถปฏิบัติภารกิจ ในการสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติ อันจะทำให้ชีวิตของแต่ละคน มีความก้าวหน้าและผาสุกมั่นคงทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

พระราชทานพระโอวาท วันที่สอง (22 กันยายน 2568) ความว่า “เมื่อวานนี้ ข้าพเจ้าได้กล่าวแก่บัณฑิตในที่ประชุมนี้ว่า หลายปีที่ผ่านมา ทั่วโลกเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ทำให้ประเทศชาติต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเท่าทันยุคสมัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง บัณฑิตจึงไม่ควรหยุดนิ่งอยู่กับวิชาความรู้เพียงเท่าที่ได้ศึกษามาแล้วเท่านั้น แต่ควรจะต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้ทันโลกทันเหตุการณ์ และฝึกฝนความคิดวิจารณญาณให้เที่ยงตรงเป็นกลางอยู่เสมอด้วย ในวันนี้ ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมแก่ท่านทั้งหลายว่า การพัฒนาประเทศ ประกอบด้วยภารกิจต่างๆ ที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของบุคลากรหลากหลายสาขาในการทำงานร่วมกันนั้น นอกจากแต่ละคนจะต้องมีความรู้ทางวิชาการในสาขาของตน รวมทั้งความรอบรู้ที่ทันเหตุการณ์โลกแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการประสานสัมพันธ์ ตลอดจนความเฉลียวฉลาดในการวางหลักการและระบบวิธีปฏิบัติงานด้วย จึงจะสามารถนำหลักวิชาและความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาใช้ให้ประสานสอดคล้องกัน จนงานที่ทำสำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพได้ บัณฑิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นั้น นับว่าเป็นผู้ที่ความรู้เป็นพื้นฐานที่ดีอยู่ หากจะได้ตั้งใจพยายามฝึกฝนพัฒนาตนเอง ให้มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งดำเนินชีวิตตามแนวพระราชปณิธาน ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนแล้ว ก็เชื่อว่าจะสามารถร่วมแรงร่วมใจกัน นำพาประเทศชาติไปสู่ความรุ่งเรืองก้าวหน้า ตลอดจนสร้างสรรค์ความสำเร็จ ในชีวิตและกิจการงานของตนได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน”

ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี (ICC Hat Yai)
ขอร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกท่าน 




จัดโดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ


